ทำไม “Collagen Biostimulator” ถึงมาแรง

ปัจจุบันแนวทางการตกแต่งผิว ไม่ได้มุ่งแต่การ “เติมเต็ม” (filler) อย่างเดียว แต่หันมาให้ความสำคัญกับ การกระตุ้นคอลลาเจนในชั้นผิว (biostimulation) เพื่อให้ผิวยืนยาว แข็งแรง และดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น

  • Collagen Biostimulator คือสารฉีดที่ไม่ใช่ไฮยาลูโรนิคแอซิดอย่างเดียว แต่มีองค์ประกอบที่กระตุ้นให้เซลล์ผิว (fibroblast) สร้างคอลลาเจนใหม่
  • เมื่อเทียบกับ filler แบบ HA ที่ให้ผลทันที แต่มักสลายเร็ว Biostimulator จะให้ผลชัดเจนช้ากว่า (ในช่วงหลายสัปดาห์ถึงเดือน) แต่คงอยู่ได้นานกว่า
  • แต่ละแบรนด์แต่ละโมเลกุล ก็ให้ผลแตกต่างกัน — ทั้งเรื่องเวลาเริ่มเห็นผล ระยะเวลาคงอยู่ ความเสี่ยง และพื้นที่ที่เหมาะจะใช้

ในบทความนี้ เราจะพาไปรู้จัก 5 ตัวที่โดดเด่นในตลาดตอนนี้ ได้แก่:

  1. Juvelook
  2. Sculptra
  3. AestheFill
  4. Radiesse
  5. Ultracol

และในตอนท้ายจะมีข้อแนะนำในการเลือก ใช้ และโปรโมตสำหรับคลินิก (รวมถึงการใส่ลิ้งค์ภายในเว็บไซต์ PW Clinic)

สารบัญ

ปรึกษาฟรี สอบถามเพิ่มเติมได้ที่

1. Juvelook — Hybrid Biostimulator ยอดนิยมจากเกาหลี

จุดเด่น & กลไกการทำงาน

  • Juvelook (หรือ JuveLook) คือสารแบบ “Hybrid Biostimulator” ที่รวม PDLLA + Hyaluronic Acid (HA) เข้าไว้ด้วยกัน — มีทั้งคุณสมบัติเติมน้ำให้ผิวทันทีและกระตุ้นคอลลาเจนในระยะยาว
  • เมื่อฉีดเข้าสู่ผิวชั้น Dermis / ใกล้ชั้นกลาง จะเกิดการกระตุ้น fibroblast ให้สร้างคอลลาเจนใหม่ ในขณะที่ HA จะให้ความชุ่มชื้นและช่วยให้ผลเริ่มเห็นชัดเร็วขึ้น
  • ผลลัพธ์สามารถอยู่ได้ประมาณ 12–18 เดือน (ขึ้นอยู่กับจำนวนครั้งการฉีดและการดูแล)
  • Juvelook เคยประกาศยอดผลิต vials สะสมถึง 1.5 ล้านขวด (vials) ณ เดือนพฤษภาคม 2025 ซึ่งแสดงถึงความนิยมระดับสากล

จุดแข็ง & ข้อจำกัด

ข้อดีข้อควรระวัง / ข้อจำกัด
มี HA ทำให้ผิวนุ่ม ชุ่มชื้นและเห็นผลเร็วขึ้นต้องฉีดหลายครั้ง (มัก 2–3 ครั้ง)
เหมาะกับผิวที่ต้องการปรับคุณภาพ เช่น รอยสิว รูขุมขน ปรับผิวละเอียดค่าใช้จ่ายต่อคอร์สอาจสูง
เวลาพักฟื้นน้อย (downtime ต่ำ)ถ้าฉีดลึกเกินไป อาจเกิดก้อนใต้ผิวได้
เหมาะกับผิวหลายจุด เช่น ใบหน้า คอ ฯลฯผลเริ่มช้าในบางคน ระยะเวลาคงอยู่ไม่เท่ากัน

เทคนิค &แนวทางการฉีด

  • แพทย์มักแบ่งฉีดทีละจุดแบบ microdroplet กระจายทั่วพื้นที่ที่ต้องการ
  • หลีกเลี่ยงการฉีดชิดเส้นเลือดใหญ่
  • การนวดเบา ๆ หลังฉีด (ตามเทคนิคแพทย์) อาจช่วยให้ผิวอัดตัวดีและลดโอกาสเกิดก้อน
  • ต้องประเมินปริมาณและช่วงเวลา (เช่น ฉีดเดือนละครั้ง 3 ครั้ง)

แนะนำเพิ่มเติม => juvelook ดีไหม

2. Sculptra — ต้นตำรับ PLLA Biostimulator ระดับโลก

กลไก &ประวัติ

  • Sculptra เป็นสารชนิด Poly-L-Lactic Acid (PLLA) ที่ได้รับการรับรองโดย FDA สำหรับการแก้ไขปัญหาการสูญเสียไขมันในใบหน้า (lipoatrophy) และการใช้ในงานเสริมความงามทั่วไป
  • เมื่อฉีดเข้าสู่ชั้นผิว PLLA จะทำหน้าที่กระตุ้นการอักเสบแบบเบา (controlled inflammation) จูงให้ fibroblast สร้างคอลลาเจนในบริเวณนั้น ๆ อย่างต่อเนื่อง
  • ผลลัพธ์จะค่อยเป็นค่อยไป โดยเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงชัดในช่วง 4–8 สัปดาห์ และเต็มที่ใน 3–4 เดือน

คุณสมบัติ &ระยะเวลาคงอยู่

  • Sculptra มักอยู่ได้ ถึง 24 เดือน หรือประมาณ 1.5–2 ปี ขึ้นอยู่กับการดูแลและเมตาบอลิซึมของร่างกาย
  • เหมาะกับการปรับโครงสร้างผิวในระยะยาว เช่น แก้มตอบ แนวกราม คาง ฯลฯ
  • เนื่องจากเป็นการกระตุ้นภายใน จึงมักไม่ให้ผลทันทีเต็มรูปแบบ ต้องใช้เวลา

ข้อดี &ข้อควรระวัง

ข้อดีข้อควรระวัง / ข้อจำกัด
ผลยาวนาน เหมาะกับผู้ที่ไม่ต้องการเติมสารบ่อยต้องฉีดหลายซีสชัน (2–4 ครั้ง)
ผลดูเป็นธรรมชาติ ไม่เน้นการเติมเต็มแบบทันทีมักเกิดการบวม แดง ช้ำในช่วงแรก
เหมาะสำหรับบริเวณที่มีการยุบตัวหรือผิวหย่อนคล้อยต้องนวดหลังฉีดอย่างเคร่งครัดเพื่อลดโอกาสเกิดก้อน (granuloma)
ไม่มีสารคงที่ในผิวหลังสลายหมดไม่เหมาะกับผู้ต้องการผลเร็วทันที

แนะนำเพิ่มเติม


3. AestheFill — PLA (Polylactic Acid) Biostimulator จากเอเชีย

กลไก &จุดเด่น

  • AestheFill คือสาร Polylactic Acid (PLA) ที่ออกแบบมาเพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนอย่างระมัดระวัง (less inflammatory)
  • จุดเด่นคือ ให้ผลที่ยาวนาน และเน้นการฟื้นฟูผิวให้แข็งแรงจากภายใน โดยไม่พึ่งพาการเติมเต็มแบบรุนแรง
  • มีการประเมินว่า AestheFill สามารถเพิ่มความหนาแน่นของคอลลาเจนได้ถึง 20–30% ในคลินิกที่มีงานวิจัย fillersfairy

ระยะเวลาผล &ลักษณะผลลัพธ์

  • ผลลัพธ์มักอยู่ได้ ประมาณ 12–18 เดือน ขึ้นอยู่กับการฉีดซ้ำ (touch-up) และสภาพผิวของผู้ใช้
  • ผลจะเริ่มเห็นในช่วง 2–4 สัปดาห์ และเต็มที่ภายใน 3 เดือน
  • ไม่มีผลเติมเต็มทันทีมากนัก — จุดประสงค์หลักคือการสร้างคอลลาเจนและฟื้นฟูผิว

ข้อดี &ข้อจำกัด

ข้อดีข้อควรระวัง / ข้อจำกัด
ผลอยู่ได้นาน เหมาะกับผู้ที่ต้องการปรับโครงสร้างเห็นผลช้ากว่า filler แบบเติมเต็ม
มีการกระตุ้นคอลลาเจนได้ดี และมีงานวิจัยสนับสนุนหากฉีดลึก/มาก อาจเกิดก้อน (rare)
ผลลัพธ์เนียนเป็นธรรมชาติ ไม่ดู “ฉีดมากเกิน”ต้องวางแผนการฉีดซ้ำ (touch-up)
อาจเหมาะกับผู้ที่ไม่ต้องการเติมเต็มทันทีอาจไม่ตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการผลเร็วชัดเจน

แนวทางการโปรโมทใน PW Clinic

  • สร้างเพจ “AestheFill Biostimulator” และอธิบายจุดเด่น เช่น “การสร้างโครงสร้างผิวระยะยาวโดยไม่เน้นเติมเต็มทันที”
  • ใส่วิธีการดูแลหลังการฉีด (post care) และตัวอย่างเคส
  • ถ้า PW Clinic มีการทำ AestheFill แล้ว ควรประชาสัมพันธ์ว่ามีประสบการณ์ ใช้งานจริง

4. Radiesse — Biostimulator ที่ให้ทั้งเติมเต็ม + กระตุ้นคอลลาเจน (CaHA)

กลไก &วิธีการทำงาน

  • Radiesse เป็นสาร Calcium Hydroxylapatite (CaHA) ที่อยู่ในเมทริกซ์เจล ซึ่งให้ผลเติมเต็มทันที + กระตุ้นคอลลาเจนในระยะยาว
  • เมื่อฉีดเข้าไป เจลจะให้การยกและเติมเต็มทันที จากนั้นอนุภาค CaHA จะทำหน้าที่เป็นโครงสร้าง (scaffold) ช่วยให้เซลล์ผิวสร้างคอลลาเจนรอบตัว
  • ผลลัพธ์มักเห็นการเปลี่ยนแปลงบางส่วนทันที และผลเต็มรูปแบบใน 2–3 เดือน

ระยะเวลาคงอยู่ &ประสิทธิภาพ

  • ระยะเวลาผลลัพธ์อยู่ได้ ประมาณ 12–18 เดือน (บางคลินิกรายงานได้ถึง 18 เดือน)
  • เหมาะกับผู้ที่ต้องการผลเร็ว + การรองรับโครงสร้างผิวในเวลาเดียวกัน
  • มีเทคนิค “Hyperdiluted Radiesse” ที่ใช้เจือจางช่วยกระตุ้นคอลลาเจนในบริเวณกว้าง เช่น คอ มือ ฯลฯ

จุดแข็ง &ข้อจำกัด

ข้อดีข้อควรระวัง / ข้อจำกัด
ผลบางส่วนเห็นทันที (เติมเต็ม + กระตุ้นคอลลาเจน)หากฉีดตื้นเกินไปอาจทำให้เป็นคลื่นหรือไม่เรียบ
เหมาะกับการปรับรูปหน้า ยกแก้ม ขากรรไกร และเติมโครงสร้างไม่ควรใช้ในผิวบางหรือชิดผิวนอกมาก
มีผลงานรองรับในหลายคลินิกระยะเวลาคงอยู่สั้นกว่า Sculptra บางเคส
เวลาพักฟื้นน้อยบางรายอาจเกิดบวม ช้ำเล็กน้อยช่วงแรก

การใช้ในโปรโมชัน PW Clinic

  • ตั้งเพจ “Radiesse Bio-Filler” หรือ “Radiesse Biostimulator”
  • อธิบายจุดเด่น เช่น “เติม + สร้างผิวในตัวเดียว”
  • ให้คำแนะนำพื้นที่ที่เหมาะกับ Radiesse เช่น แก้ม ขากรรไกร มือ ฯลฯ
  • ใส่กรณีตัวอย่าง (before/after) และใส่วิธีการดูแลหลังการฉีด

5. Ultracol — PDO Microsphere Biostimulator สไตล์ K-Beauty

กลไก &จุดเด่น

  • Ultracol (Liquid PDO Microsphere) คือสาร biostimulator ที่ใช้ Polydioxanone (PDO) ในรูปแบบไมโครสเฟียร์ ที่ฉีดเข้าสู่ผิวและกระตุ้นคอลลาเจนชนิด I & III
  • จุดเด่นคือสามารถใช้ในบริเวณที่ผิวบางหรืออายุต้องการผลเร็ว เช่น ใต้ตา หน้าผาก และยังเป็นนวัตกรรมใหม่ (liquid thread) ที่มีความปลอดภัยสูง
  • Ultracol มีหลายรุ่น เช่น Ultracol 100 / 200 mg ซึ่งอาจถูกเลือกตามปริมาณการใช้และจุดที่ฉีด

ระยะเวลาหน่วง &ผลลัพธ์

  • ผลลัพธ์จะเริ่มเห็นใน 2–4 สัปดาห์ และชัดเจนใน 3 เดือน
  • ระยะเวลาคงอยู่โดยทั่วไปอยู่ 6–12 เดือน ขึ้นกับรุ่นและสภาพผิว
  • เหมาะกับผิวที่ต้องการการฟื้นฟูเร็วหรือผิวบางที่แบรนด์อื่นอาจเสี่ยง

ข้อดี &ข้อจำกัด

ข้อดีข้อควรระวัง / ความเสี่ยง
เหมาะกับบริเวณผิวบาง เช่น ใต้ตา หน้าผากอายุการใช้งานสั้นกว่า Sculptra / Radiesse
ผลเห็นเร็ว (2–4 สัปดาห์)ถ้าฉีดผิดชั้นอาจเกิดก้อนหรือไม่สม่ำเสมอ
ปลอดภัยสูง เพราะ PDO เป็นวัสดุที่ทนต่อเนื้อเยื่อต้องประเมินปริมาณการใช้ให้เหมาะสม
เป็นนวัตกรรมใหม่ที่เหมาะกับตลาดแนว K-Beautyราคาสินค้าและการตรวจสอบสินค้าแท้อาจเป็นประเด็น

แนวทางการโปรโมชันใน PW Clinic

  • ตั้งเพจ “Ultracol Liquid PDO Biostimulator”
  • อธิบายคุณสมบัติเด่น เช่น “ปลอดภัย ใช้ได้กับจุดที่ผิวบาง”
  • ใส่คำแนะนำเรื่องรุ่น (100 vs 200 mg)
  • รวมตัวอย่างเคสการใช้ Ultracol ในจุดพิเศษ เช่น ใต้ตา
  • อัปเดตว่าผลิตภัณฑ์ได้รับการรับรอง KFDA / CE / TFDA และมีการนำเข้าในไทยแล้ว

เปรียบเทียบเบื้องต้น: เลือกอะไรให้เหมาะกับผู้ใช้

เปรียบเทียบJuvelookSculptraAestheFillRadiesseUltracol
โมเลกุล / วัสดุPDLLA + HAPLLAPLACaHAPDO microspheres
เห็นผลเร็วค่อนข้างเร็ว (จาก HA)ช้า (4–8 สัปดาห์)กลางเร็วกว่าบ้างเร็วก (2–4 สัปดาห์)
ระยะเวลาคงอยู่12–18 เดือน~24 เดือน~12–18 เดือน12–18 เดือน~6–12 เดือน
เหมาะกับผิวที่ต้องการปรับคุณภาพ + เติมเล็กน้อยผิวหย่อนคล้อยมากผิวที่ต้องการผลธรรมชาติผิวที่ต้องการผลเร็ว +เติมเต็มจุดผิวบาง / จุดละเอียด
ความเสี่ยงก้อนน้อย หากฉีดถูกชั้นก้อน / granuloma หากนวดไม่ดีก้อนได้ ถ้าฉีดลึกผิวบางอาจคลื่นฉีดผิดชั้นอาจเกิน

คำแนะนำเบื้องต้น

  • ถ้าลูกค้าต้องการผลเร็ว + เติมเต็มบางส่วน → Radiesse
  • ถ้าต้องการผลยาวนาน + ไม่ต้องเติมบ่อย → Sculptra
  • ถ้าต้องการความสมดุลระหว่างผลเร็วและความปลอดภัย → Juvelook
  • ถ้าต้องการผลธรรมชาติแบบไม่มี “เติมเต็ม” ชัด → AestheFill
  • ถ้าต้องการฉีดจุดผิวบาง เช่น ใต้ตา → Ultracol

ปรึกษาฟรี สอบถามเพิ่มเติมได้ที่

อ้างอิง

https://skinscapeclinic.com/treatments/skin/juvelook

https://en.wikipedia.org/wiki/Sculptra

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *