การดูแลผิวพรรณเป็นเรื่องสำคัญ Biostimulator กำลังเป็นที่นิยมอย่างมากในวงการความงาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้หญิงที่ต้องการรักษาความอ่อนเยาว์ของผิว บทความนี้จะพาคุณไปทำความรู้จักกับ Biostimulator ตัวใหม่ที่กำลังมาแรง วิธีการทำงาน ประโยชน์ และข้อควรระวังต่างๆ
Biostimulator คืออะไร?
Biostimulator เป็นสารที่ใช้ในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในผิวหนัง โดยทำงานผ่านกลไกการกระตุ้นเซลล์ไฟโบรบลาสต์ ซึ่งเป็นเซลล์ที่ทำหน้าที่ผลิตคอลลาเจนและอีลาสตินในชั้นผิวหนัง การใช้ Biostimulator จะช่วยให้ผิวหนังมีความยืดหยุ่น กระชับ และดูอ่อนเยาว์มากขึ้น
Biostimulator มีกี่ยี่ห้อ?
ปัจจุบัน Biostimulator มีหลายยี่ห้อที่ได้รับความนิยม ได้แก่:
- Sculptra (Poly-L-lactic acid)
- Radiesse (Calcium Hydroxylapatite)
- Ellansé (Polycaprolactone)
- Renuva (Allograft Adipose Matrix)
- Lanluma (Poly-L-lactic acid)
แต่ละยี่ห้อมีคุณสมบัติและข้อดีที่แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับความต้องการและสภาพผิวของแต่ละบุคคล
Biostimulator ใต้ตา: ทางเลือกใหม่สำหรับการรักษาริ้วรอย
การใช้ Biostimulator ในบริเวณใต้ตาเป็นวิธีการที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากสามารถช่วยลดเลือนริ้วรอย รอยคล้ำ และถุงใต้ตาได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ทำให้ใบหน้าดูผิดธรรมชาติเหมือนการฉีดฟิลเลอร์
ข้อดีของการใช้ Biostimulator ใต้ตา:
- ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ
- กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในระยะยาว
- ลดความเสี่ยงในการเกิดการอุดตันของหลอดเลือด
- เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวบางบริเวณใต้ตา
Biostimulator มีอะไรบ้าง? เจาะลึกคุณสมบัติของแต่ละชนิด
1. Sculptra (Poly-L-lactic acid)
Sculptra เป็น Biostimulator ที่ทำจาก Poly-L-lactic acid ซึ่งเป็นสารที่ย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ

คุณสมบัติ:
- กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนอย่างค่อยเป็นค่อยไป
- ผลลัพธ์คงอยู่ได้นานถึง 2 ปี
- เหมาะสำหรับการเพิ่มปริมาตรใบหน้าโดยรวม
2. Radiesse (Calcium Hydroxylapatite)
Radiesse ประกอบด้วยอนุภาคแคลเซียมไฮดรอกซีอะพาไทต์ ซึ่งเป็นแร่ธาตุที่พบในกระดูกและฟัน

คุณสมบัติ:
- ให้ผลลัพธ์ทันทีและกระตุ้นคอลลาเจนในระยะยาว
- เหมาะสำหรับการแก้ไขริ้วรอยลึกและการเพิ่มปริมาตร
- ผลลัพธ์คงอยู่ได้ประมาณ 12-18 เดือน
3. Ellansé (Polycaprolactone)
Ellansé เป็น Biostimulator ที่ทำจาก Polycaprolactone ซึ่งเป็นโพลิเมอร์ที่ย่อยสลายได้
คุณสมบัติ:
- ให้ผลลัพธ์ทันทีและกระตุ้นคอลลาเจนในระยะยาว
- มีระยะเวลาการออกฤทธิ์ที่ยาวนานถึง 4 ปี
- เหมาะสำหรับการแก้ไขริ้วรอยและการเพิ่มปริมาตรใบหน้า
4. Renuva (Allograft Adipose Matrix)
Renuva เป็น Biostimulator ที่ทำจากเนื้อเยื่อไขมันของผู้บริจาค
คุณสมบัติ:
- กระตุ้นการสร้างไขมันใหม่ในบริเวณที่ฉีด
- เหมาะสำหรับการแก้ไขรอยบุ๋มหรือความไม่สม่ำเสมอของผิว
- ผลลัพธ์เป็นธรรมชาติและคงทนถาวร
5. Lanluma (Poly-L-lactic acid)
Lanluma เป็น Biostimulator อีกชนิดหนึ่งที่ทำจาก Poly-L-lactic acid เช่นเดียวกับ Sculptra
คุณสมบัติ:
- กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนอย่างค่อยเป็นค่อยไป
- ผลลัพธ์คงอยู่ได้นานถึง 2 ปี
- เหมาะสำหรับการเพิ่มปริมาตรและปรับรูปหน้า
ข้อควรพิจารณาก่อนการใช้ Biostimulator
- ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ: ควรเลือกแพทย์ที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการใช้ Biostimulator
- ประเมินสภาพผิวและความต้องการ: แต่ละคนมีสภาพผิวและความต้องการที่แตกต่างกัน การเลือก Biostimulator ที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งสำคัญ
- เข้าใจผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น: แม้ว่า Biostimulator จะมีความปลอดภัยสูง แต่ก็อาจมีผลข้างเคียงบางประการ เช่น รอยช้ำ บวม หรือแดงเล็กน้อย
- วางแผนการรักษาระยะยาว: Biostimulator ให้ผลลัพธ์ที่ค่อยๆ ปรากฏและคงอยู่ได้นาน ดังนั้นควรวางแผนการรักษาอย่างต่อเนื่อง
- พิจารณาค่าใช้จ่าย: การรักษาด้วย Biostimulator อาจมีค่าใช้จ่ายสูง ควรพิจารณางบประมาณและความคุ้มค่าในระยะยาว
ขั้นตอนการรักษาด้วย Biostimulator
- การปรึกษาแพทย์: พบแพทย์เพื่อประเมินสภาพผิวและวางแผนการรักษา
- การเตรียมตัวก่อนการรักษา: หลีกเลี่ยงการใช้ยาบางชนิด เช่น ยาต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAIDs) เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดรอยช้ำ
- การทำความสะอาดผิว: แพทย์จะทำความสะอาดบริเวณที่จะรักษาด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ
- การฉีด Biostimulator: แพทย์จะฉีด Biostimulator เข้าสู่ชั้นผิวหนังด้วยเทคนิคเฉพาะ
- การนวดบริเวณที่ฉีด: หลังการฉีด แพทย์จะนวดบริเวณที่ฉีดเพื่อให้สารกระจายตัวอย่างสม่ำเสมอ
- การดูแลหลังการรักษา: ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ในการดูแลผิวหลังการรักษา
ผลลัพธ์และการดูแลหลังการรักษา
ผลลัพธ์ของการรักษาด้วย Biostimulator จะค่อยๆ ปรากฏขึ้นในช่วง 4-6 สัปดาห์หลังการรักษา และจะดีขึ้นเรื่อยๆ ในช่วง 3-6 เดือน โดยผลลัพธ์สูงสุดจะเห็นได้ชัดเจนหลังจาก 6 เดือน
การดูแลหลังการรักษา:
- หลีกเลี่ยงการนวดหรือสัมผัสบริเวณที่ฉีดเป็นเวลา 24-48 ชั่วโมง
- ประคบเย็นเพื่อลดอาการบวมหรือรอยช้ำ
- หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนักๆ เป็นเวลา 24-48 ชั่วโมง
- ใช้ครีมกันแดดเพื่อปกป้องผิวจากรังสี UV
- ดื่มน้ำให้เพียงพอเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว
บทสรุป
Biostimulator เป็นนวัตกรรมใหม่ในวงการความงามที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์อย่างเป็นธรรมชาติ ด้วยความหลากหลายของ Biostimulator ที่มีในปัจจุบัน ผู้ที่สนใจสามารถเลือกใช้ให้เหมาะสมกับสภาพผิวและความต้องการของตนเอง อย่างไรก็ตาม การปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและการดูแลผิวอย่างถูกวิธีเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัย
พีดับเบิลยู คลินิก กาญจนบุรี คลินิกเสริมความงามครบวงจร
สนใจทดลองใช้ Biostimulator เพื่อผิวที่อ่อนเยาว์และเปล่งปลั่ง? เยี่ยมชมเว็บไซต์ของเราเพื่อข้อมูลเพิ่มเติมและจองคิวปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญวันนี้!
แหล่งข้อมูล
- “Biostimulators in Aesthetic Medicine: An Overview” – Journal of Cosmetic Dermatology URL: https://onlinelibrary.wiley.com/doi/full/10.1111/jocd.13206
- “Poly-L-lactic acid: a temporary filler for soft tissue augmentation” – Dermatologic Surgery URL: https://pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/15996419/
- “Calcium hydroxylapatite (Radiesse) for treatment of nasolabial folds: long-term safety and efficacy results” – Aesthetic Surgery Journal URL: https://academic.oup.com/asj/article/29/3/233/270243
- “Ellansé: A Novel Bioresorbable Polycaprolactone Based Dermal Filler for Facial Rejuvenation” – Journal of Drugs in Dermatology URL: https://jddonline.com/articles/dermatology/S1545961619P0009X
- “Renuva: A Novel Fat-Based Biostimulator for Soft Tissue Augmentation” – Plastic and Reconstructive Surgery – Global Open URL: https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC7261118/
#Biostimulator #ฉีดกระตุ้นคอลลาเจน #ผิวอ่อนเยาว์ #ความงาม #AntiAging