ฟิลเลอร์ปาก ทางเลือกเพื่อริมฝีปากสวยอย่างเป็นธรรมชาติ

การดูแลความงามเป็นเรื่องสำคัญ ฟิลเลอร์ปากได้กลายเป็นทางเลือกยอดนิยมสำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มความอวบอิ่มให้กับริมฝีปาก บทความนี้จะพาคุณไปทำความรู้จักกับฟิลเลอร์ปากอย่างละเอียด ตั้งแต่ราคา ขั้นตอนการฉีด ไปจนถึงข้อควรระวังต่างๆ

ฟิลเลอร์ปากคืออะไร?

ฟิลเลอร์ปากเป็นหัตถการทางความงามที่ใช้สารเติมเต็มฉีดเข้าไปในริมฝีปากเพื่อเพิ่มปริมาตรและรูปทรง สารที่ใช้มักเป็นกรดไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic Acid) ซึ่งเป็นสารที่มีอยู่ตามธรรมชาติในร่างกายมนุษย์

ราคาของฟิลเลอร์ปาก

ฟิลเลอร์ปาก 1 cc กี่บาท?

ราคาของฟิลเลอร์ปากขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น แบรนด์ของฟิลเลอร์ และคลินิกที่ให้บริการ โดยทั่วไป ฟิลเลอร์ปาก 1 cc มีราคาประมาณ 10,000 – 20,000 บาท ตามราคาอัพ ตามช่วงโปรโมชั่น

ปากกระจับทรงธรรมชาติ

ฟิลเลอร์ราคา / 1 ccอายุการใช้งาน
ฟิลเลอร์ Juvederm รุ่น Volift14,900.-อยู่ได้นาน 12 เดือน
ฟิลเลอร์ Restylane รุ่น Volyme14,900.-อยู่ได้นาน 18 เดือน
ฟิลเลอร์ Restylane รุ่น Refyne14,900.-อยู่ได้นาน 12 เดือน
ฟิลเลอร์ Teoxane รุ่น RHA 214,900.-อยู่ได้นาน 18 เดือน

ขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์ปาก

  1. ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
  2. ทำความสะอาดบริเวณที่จะฉีด
  3. ทายาชาเฉพาะที่ (หากจำเป็น)
  4. แพทย์ฉีดฟิลเลอร์เข้าสู่ริมฝีปาก
  5. นวดเบาๆ เพื่อกระจายฟิลเลอร์

ข้อควรระวังหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก

ฉีดฟิลเลอร์เม้มปากได้ไหม?

หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ควรหลีกเลี่ยงการเม้มปากแรงๆ เป็นเวลาอย่างน้อย 24 ชั่วโมง เพื่อให้ฟิลเลอร์เซ็ตตัวได้อย่างสมบูรณ์

ฉีดฟิลเลอร์ปากงดดูดหลอดกี่วัน?

ควรงดดูดหลอดเป็นเวลาอย่างน้อย 3-5 วันหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก เพื่อป้องกันการเคลื่อนที่ของฟิลเลอร์

ข้อห้ามในการฉีดฟิลเลอร์ปาก

  1. ผู้ที่มีอาการแพ้สารที่ใช้ในฟิลเลอร์
  2. ผู้ที่มีการติดเชื้อบริเวณใบหน้าหรือปาก
  3. สตรีมีครรภ์หรือให้นมบุตร
  4. ผู้ที่มีโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง

ฟิลเลอร์ปาก ยี่ห้อไหนดี?

การเลือกยี่ห้อฟิลเลอร์ที่ดีควรพิจารณาจากปัจจัยต่อไปนี้:

  1. ความปลอดภัยและการรับรองจาก อย.
  2. ความยาวนานของผลลัพธ์
  3. ความเป็นธรรมชาติของผลลัพธ์
  4. ราคาและความคุ้มค่า

ยี่ห้อฟิลเลอร์ที่ได้รับความนิยมในประเทศไทย ได้แก่ Juvederm, Restylane, และ Teosyal

ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์ปาก

  1. เพิ่มปริมาตรและรูปทรงให้ริมฝีปาก
  2. แก้ไขความไม่สมมาตรของริมฝีปาก
  3. ลดรอยย่นรอบปาก
  4. ผลลัพธ์เห็นได้ทันที
  5. ไม่ต้องพักฟื้นนาน

ข้อเสียของการฉีดฟิลเลอร์ปาก

  1. อาจเกิดอาการบวมหรือช้ำเล็กน้อย
  2. ผลลัพธ์ไม่ถาวร ต้องฉีดซ้ำเป็นระยะ
  3. มีความเสี่ยงจากการแพ้หรือติดเชื้อ (แม้จะพบได้น้อย)
  4. ค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง

คำแนะนำในการดูแลหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก

  1. หลีกเลี่ยงการสัมผัสหรือนวดบริเวณที่ฉีดเป็นเวลา 24 ชั่วโมง
  2. ประคบเย็นเพื่อลดอาการบวม
  3. งดออกกำลังกายหนักๆ เป็นเวลา 24-48 ชั่วโมง
  4. หลีกเลี่ยงการอาบน้ำร้อนหรือเข้าซาวน่าเป็นเวลา 24 ชั่วโมง
  5. งดดื่มแอลกอฮอล์เป็นเวลา 24 ชั่วโมง

บทสรุป

ฟิลเลอร์ปากเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มความอวบอิ่มให้กับริมฝีปาก แต่ก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียที่ควรพิจารณาอย่างรอบคอบ การปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและเลือกคลินิกที่มีมาตรฐานจะช่วยให้คุณได้รับผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัย

หากคุณสนใจที่จะฉีดฟิลเลอร์ปาก เราขอเชิญชวนให้คุณเยี่ยมชมเว็บไซต์ของเราเพื่อข้อมูลเพิ่มเติมและการนัดหมายปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

#ฟิลเลอร์ปาก #ความงาม #ศัลยกรรมเสริมความงาม

แหล่งข้อมูล:

  1. “Lip Augmentation” – Mayo Clinic https://www.mayoclinic.org/tests-procedures/lip-augmentation/about/pac-20384736
  2. “Dermal Fillers” – American Society of Plastic Surgeons https://www.plasticsurgery.org/cosmetic-procedures/dermal-fillers
  3. “Lip Fillers: What You Need to Know” – WebMD https://www.webmd.com/beauty/cosmetic-procedures-lip-augmentation
  4. “Lip Fillers: Everything You Need to Know” – Healthline https://www.healthline.com/health/cosmetic-surgery/lip-fillers
  5. “Lip Augmentation” – American Board of Cosmetic Surgery https://www.americanboardcosmeticsurgery.org/procedure-learning-center/face/lip-augmentation/

รีวิวฉีดฟิลเลอร์ปาก

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *