สำหรับสาวๆ ที่ต้องการฉีดฟิลเลอร์นอกจากจะศึกษาหาข้อมูลคลินิกที่ได้รับมาตรฐานมีคุณหมอที่มีประสบการณ์ และวิธีการดูแลตัวเองก่อน-หลังฉีดแล้วนั้น เราควรมารู้จักตัวฟิลเลอร์ที่คุณหมอใช้ฉีดเข้าไปในใบหน้าของเราบ้างว่ามันมีห้อยี่อะไรบ้าง และแต่ละยี่ห้อเหมาะสำหรับฉีดจุดไหน วันนี้ก็จะมาแนะนำ ฟิลเลอร์ 5 ยี่ห่อหลักๆที่คนนิยมมากที่สุดค่ะ
1. Juvederm เป็นฟิลเลอร์ที่มาจากอเมริกา อยู่ได้ประมาณ 1 ปี มีลักษณะเป็นโมเลกุลขาดเล็กและมีความละเอียดมากที่สุด เนื้อสัมผัสนิ่มทำให้เรียบเนียน ให้ผลลัพธ์หลังการฉีดที่เป็นธรรมชาติมากๆ เพราะโมเลกุลขนาดเล็ดจะไม่จับตัวกันเป็นก้อน เหมาะสำหรับฉีดบริเวณผิวหนังที่บางๆ เช่น ริ้วรอยบางๆ บริเวณใต้ตา ที่นิยมฉีดที่สุดคือบริเวณหน้าผากค่ะ
2. Belotero เป็นฟิลเลอร์ที่มาจากสวิตเซอร์แลนด์ อยู่ได้ประมาณ 18 เดือน มีลักษณะเนื้อยืดหยุ่น มีความคงตัว เรียบเนียน และไม่ฟูจนเกินไปเหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาใต้ตาลึก ใบหน้าตอบ จากสาเหตุการทรุดตัวของกระดูก เพราะสามารถฉีดเสริมกระดูกใต้ตาชั้นลึก แทนกระดูก เพื่อให้โครงหน้าได้รูป ได้สัดส่วนมากขึ้น ดูอ่อนเยาว์ นิยมใช้เพื่อปรับรูปหน้าที่ไร้วอลุ่ม คาง โหนกแก้ม
3. Restylane เป็นฟิลเลอร์ที่มาจากสวีเดน อยู่ได้ประมาณ 6-12 เดือน มีลักษณะเนื้อนิ่มละเอียด มีตัวเจลที่อนุภาคเล็กมากๆ มีความยืดหยุ่น คงตัวที่ปลอดภัย เหมาะสำหรับใช้ฉีดแก้ไขจุดที่มีปัญหาเล็กๆ น้อยๆ เก็บรายละเอียดใต้ตา ผิวชั้นตื้น หรือริมฝีปาก และยังช่วยฟื้นฟู บำรุงผิว เพิ่มความชุ่มชื้นเข้าใต้ชั้นผิวได้อีกด้วย
4. Neuramis เป็นฟิลเลอร์ที่มาจากเกาหลี อยู่ได้ประมาณ 6-8 เดือน มีลักษณะเป็นเนื้อเจลแน่นและฟู ตำแหน่งของการเติมส่วนใหญ่คือส่วนที่ไม่มีวอลุ่ม อย่าง ร่องแก้ม ขมับ และแก้มตอบ เพราะเนื้อเจลมีความแน่น เนื้อฟู คงตัว เรียบเนียน ไม่ไหล แต่ไม่ควรนำมาเติมใต้ตา เพราะอาจเป็นก้อนได้ แถมยังสลายไว ต้องหมั่นมาเติมค่ะ
5. Perfectha เป็นฟิลเลอร์ที่มาจากฝรั่งเศส อยู่ได้ประมาณ 1 ปี โดดเด่นในเรื่องของการให้ความชุ่มชื้น และความยืดหยุ่น อุ้มน้ำได้ดี ด้วยปริมาณ HA (Hyaluronic Acid) เข้มข้นสูง ทำให้คงอยู่ได้นาน โดยรุ่น Subskin เป็นรุ่นที่ค่อนข้างได้รับความนิยม เหมาะสำหรับฉีดฟิลเลอร์ตรงคาง และขมับ เพราะสามารถปั้นทรงได้สวยอย่างเป็นธรรมชาติ มีความคงตัวสูง เนื้อแน่น ไม่ฟู
ฟิลเลอร์ยอดฮิตทั้งหมด 5 ยี่ห่อนี้ แต่ละยี่ห่อก็จะรุ่นย่อยๆออกไปอีก จะเห็นได้ว่ามีคุณสมบัติที่แตกต่างกันออกไป ก่อนฉีดยังไม่ก็ต้องปรึกษาคุณหมอ ให้คุณหมอประเมินให้ตามความเหมาะสม จะได้รับผลลัพธ์ที่ดี และปลอดภัยด้วยค่ะ