การ เสริมคาง เป็นอีกวิธีหนึ่งเมื่อทำแล้วจะเห็นการเปลี่ยนแปลงของรูปหน้าได้อย่างชัดเจน ทำให้ใบหน้ามีมิติเกิดความสมดุลของใบหน้า แลดูยาวเรียวขึ้นเป็นรูปไข่ซึ่งเป็นรูปหน้าที่สาวๆ หลายคนใฝ่ฝันอยากจะมี แต่การเสริมคางนั้นก็ใช่ว่าจะเหมาะสำหรับทุกคน ทั้งนี้ต้องให้คุณหมอที่มีประสบการณ์ประเมินโครงหน้าของแต่ละคนก่อน และวิธีการเสริมจะแบ่งเป็น 2 แบบหลักๆ คือ การผ่าตัด และการฉีดฟิลเลอร์ โดยมีรายละเอียด ดังนี้
1. การเสริมคางแบบผ่าตัด วิธีนี้จะเป็นการเสริมคางแบบถาวร เสริมคางได้ยาวตามความต้องการ แต่หากต้องการแก้ไขต้องทำการผ่าตัดอีกครั้ง และใช้เวลาพักฟื้นรักษาตัวนาน คางเข้าที่ใช้เวลาประมาณ 1-3 เดือน แบ่งเป็น 2 แบบย่อย คือ
1.1 การผ่าตัดโดยการย้ายกระดูกบริเวณคางออกมา ทำให้คางยื่นยาวออกมาตามต้องการ ซึงวิธีนี้ต้องใช้เทคนิคทางการแพทย์สูงจำเป็นต้องเป็นหมอที่มีความเชี่ยวชาญ และมีประสบการณ์มากๆ และต้องใช้เวลาในการพักฟื้นค่อนข้างนาน
1.2 การผ่าติดเพื่อเสริมซิลิโคลน วิธีนี้จะทำได้ง่ายกว่าวิธีข้างต้น มีซิลิโคนให้เลือกหลายทรงจึงนิยมทำมาก แผลทีเกิดจากการผ่าตัดก็ค่อนข้างเล็กเพียง 1.5 – 2 ซม. ทำให้ไม่ต้องใช้เวลาพักฟื้นนานนัก แต่ก็มีข้อควรระวังเรื่องแผลอาจติดเชื้อเกิดการอักเสบได้ง่ายหากรักษาความสะอาดไม่ดีพอ หรือถ้าเป็นการผ่าตัดแบบแผลด้านนอก ก็อาจจะทิ้งรอยแผลเป็นนูนๆไว้ที่ใต้คางได้ค่ะ
2. การเสริมคางโดยการฉีดสารเติมเต็มที่เรียกว่าฟิลเลอร์ วิธีนี้จะเป็นการเสริมคางแบบชั่วคราวคงผลลัพธ์อยู่ได้ประมาณ 12-18 เดือน สามารถฉีดสลายได้หากต้องการเปลี่ยนทรง เมื่อสลายหมดแล้ว ฉีดฟิลเลอร์เพิ่มได้โดยไม่ทำให้คางผิดรูปทรง เมื่อหมดอายุไขของฟิลเลอร์ก็จะสลายไปเองตามธรรมชาติ และเหมาะสำหรับคนที่มีคางที่ไม่สั้นมาก ต้องการปรับรูปหน้าเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เพราะฟิลเลอร์สามารถเสริมคางยาวได้ไม่เกิน 1 ซม. เป็นหัตถการที่ใช้เวลาไม่นาน ไม่มีแผล ไม่ต้องพักฟื้น และเห็นผลการเปลี่ยนแปลงทันที
หวังว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับสาวๆที่กำลังตัดสินใจเสริมคางนะคะ ก็ลองศึกษาดูค่ะ ว่าเราเหมาะที่จะเสริมโดยวิธีไหนมากที่สุด อีกอย่างคืออย่าลืมนึกถึงความปลอดภัยเป็นหลักนะคะ เลือกทำที่คลินิกที่ได้มาตรฐาน คุณหมอที่มีประสบการณ์ อีกอย่างสำคัญมากๆ คือ การดูแลตัวเองทั้งก่อนที่จะไปทำ และหลังทำเสร็จแล้วจำเป็นต้องดูแลให้ดีเป็นพิเศษ เพื่อที่จะได้รับผลลัพธ์ที่ดี